Previous slide
Next slide

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

ปัญหาริ้วรอยใต้ตา ตาลึก ตาโหล ขอบตาดำ ถุงใต้ตา เป็นจุดที่สังเกตได้ง่ายมากบนใบหน้า ทำให้หน้าดูมีอายุ โทรมและไม่สดใส

หมอแนะนำการแก้ปัญหาเหล่านี้ด้วย ฟิลเลอร์ใต้ตา ครับ สำหรับใครที่ไม่เคยฉีดฟิลเลอร์ใต้ตามาก่อน สงสัยว่าช่วยได้มากแค่ไหน อันตรายไหม เลือกฉีดอย่างไรให้ปลอดภัยและเห็นผลชัดเจน ห้ามพลาดบทความนี้ครับ 

อ่านหัวข้ออื่นๆเพิ่มเติม

ฟิลเลอร์ใต้ตา

ฟิลเลอร์ใต้ตา คืออะไร ?

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา คือ การเติมสารไฮยาลูรอนิค แอซิด เข้าไปในบริเวณใต้ตาที่มีปัญหาริ้วรอย เมื่อคนเราอายุมากขึ้นกระดูกจะยุบตัวลง เนื้อน้อยลง ทำให้ผิวหนังหย่อนคล้อย หน้าดูโทรม อ่อนล้า เกิดเป็นร่องรอยใต้ตา

การ ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเพื่อลดริ้วรอย แก้ปัญหา ใต้ตาดำคล้ำ ถุงใต้ตา ฉีดเติมเต็มร่องลึกใต้ตา ฉีดใต้ตาคล้ำ จะช่วยให้ใบหน้ากลับมาสดใส อ่อนเยาว์อีกครั้งครับ

ช่วงประมาณ 5 ปีก่อน จะฮิตการเติมร่องแก้มเพราะคนกังวลว่าร่องแก้มทำให้ดูมีอายุ แต่การเติมร่องแก้มอย่างเดียวโดยที่ไม่ได้เติมใต้ตาด้วยทำให้หน้าดูแข็ง ไม่ละมุน ขาดความฮาโมนี่ของหน้า ร่องแก้มเต็มแต่ใต้ตาลึกจะดูหน้าอูมๆ ไม่มีความเป็นธรรมชาติ

การ ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา จึงเป็นตำแหน่งแรกที่เติมแล้วได้ฮาโมนี่ คือเด็กลงอย่างเป็นธรรมชาติ เพราะว่าใต้ตาจะเป็นจุดที่ยุบลงตำแหน่งแรกและเป็นจุดที่ควรจะเติมเป็นตำแหน่งแรกครับ

ปัญหาใต้ตา เกิดจากสาเหตุใด ?

ปัญหาร่องใต้ตา สาเหตุเกิดจากส่วน Tear Through ที่อยู่ใกล้ร่องน้ำตา กับ Hollow Under Eye ตรงเบ้าตา เกิดการยุบตัวลงเมื่ออายุมากขึ้น อาจจะเป็นส่วนเดียวหรือทั้งสองส่วนก็ได้ หากจะฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา หมอจะต้องประเมินปัญหาให้ชัดเจน เพื่อแก้ไขอย่างตรงจุดครับ
 
นอกจากปัญหาเรื่องอายุที่มากขึ้น คนที่อายุน้อย ๆ ก็มีปัญหาใต้ตาได้เช่นกัน เนื่องมาจากพันธุกรรม ภูมิแพ้ หรือการเจริญเติบโตของกระดูกช่วงเบ้าตาและใต้ตาไม่ดี ทำให้เกิดถุงใต้ตา ร่องใต้ตา และยังมีปัญหาจาการใช้สายตาที่ไม่ถูกต้อง ทำให้กล้ามเนื้อรอบดวงตาหย่อนยานและมีริ้วรอยก่อนวัย

วิธีแก้ไขปัญหาใต้ตาคล้ำ ถุงใต้ตา ริ้วรอย

  • ฟิลเลอร์ใต้ตา
    การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นการแก้ปัญหาใต้ตาที่ตรงจุดที่สุด ทั้งริ้วรอย ผิวหย่อนคล้อย ขอบตาดำ หลังฉีดเห็นผลทันที เป็นหัตถการที่ไม่มีแผลและมีความเป็นธรรมชาติมาก ช่วยให้หน้าเด็กลง ผิวชุ่มชื้น ดูสดใสขึ้น
  • ครีมบำรุงใต้ตา
    สำหรับการทาครีม หมอเชื่อว่าเป็นตัวเลือกแรก ๆ ที่คนจะเลือกใช้เพื่อแก้ปัญหาใต้ตาครับ แต่จริง ๆ แล้วการทาครีมต้องใช้ระยะเวลาและความสม่ำเสมอ ต้องรอครีมค่อย ๆ ซึมลงไปในผิว เห็นผลไม่ชัดเจนและใช้เวลานาน
  • ดูดไขมันใต้ตา
    เหมาะกับคนที่ถุงใต้ตาเป็นไขมันนูนออกมา ซึ่งการดูดไขมันใต้ตา จะมีแผล 3-5 mm และไม่เหมาะกับคนที่มีผิวใต้ตาหย่อนคล้อยมาก ๆ
  • FILORGA
    FILORGA เป็นการฉีดเมโสหน้าใส สามารถใช้แก้ปัญหาใต้ตาคล้ำ ขอบตาดำ ผิวแห้ง ให้กลับมาชุ่มชื้น อิ่มฟูขึ้น มีส่วนผสมของ HA และวิตามินต่าง ๆ มีจุดเด่นในการบำรุงผิวมากกว่าแก้ปัญหาริ้วรอยหรือร่องลึกใต้ตา
  • ไหมน้ำใต้ตา
    ไหมน้ำเป็นไหมที่ใช้ฉีด จริง ๆ แล้วเป็นวัสดุ polydioxanone เหมือนกับไหมเส้นที่ใช้ร้อยเพื่อดึง แต่เป็นการเอาไหมเส้นมาตัดเป็น particle เล็ก ๆ แล้วละลายในน้ำ ใช้เติมแทนฟิลเลอร์ หมอยังไม่แนะนำให้ใช้ และยังไม่ผ่าน อย. ครับ
  • เลเซอร์ถุงใต้ตา
    เลเซอร์ตัดถุงใต้ตา เป็นการแก้ปัญหาถุงใต้ตาโดยใช้เทคนิคตัดถุงไขมันส่วนเกินจากด้านในเปลือกตาด้วยไมโครเลเซอร์ วิธีนี้จะไม่มีแผลที่ด้านนอก เหมาะกับคนที่อายุน้อย ไม่มีผิวใต้ตาหย่อนคล้อย
  • ไซโตแคร์ (Cytocare)
    เป็นการฉีดสารบำรุงผิวแบบเข้มข้น ช่วยกระตุ้นคอลลาเจน ทำให้ผิวอุ้มน้ำและมีความชุ่มชื้นมากขึ้น ฟื้นฟูผิวใต้ตาให้กระจ่างใส แต่ก็จะอยู่ได้สั้นกว่าฟิลเลอร์ และต้องฉีดซ้ำบ่อย ๆ

ฉีดใต้ตาต่างจากดอลลี่อาย อย่างไร ?

การทำดอลลี่อาย (Dolly eyes) เป็นการทำให้ขอบตาล่างดูหนาขึ้น ดวงตาจะกลมโต ดูหน้าเด็ก ซึ่งเป็นเทรนด์ที่นิยมอยู่ช่วงหนึ่งครับ สามารถใช้การเติมไขมันและการฉีดฟิลเลอร์ เพื่อทำดอลลี่อายได้

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ช่วยเรื่องอะไรบ้าง ? 

เมื่ออายุ 25 ปีขึ้นไป ใต้ตาทุกคนจะเริ่มยุบลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ใต้ตาจึงเป็นจุดแรกที่หมอแนะนำให้ฉีดฟิลเลอร์ (filler) เติมเต็ม

ในผู้ชายส่วนมากการที่กระดูกใต้ตายุบตัวลงจะทำให้ดูเหมือนผอมลง ดูโทรม แต่บางคนจะดูหล่อขึ้น ส่วนในผู้หญิง จะทำให้หน้าโทรม ดูมีอายุขึ้น 

ปัญหาใต้ตาที่สามารถแก้ด้วย ฟิลเลอร์ใต้ตา ได้แก่

  • ฟิลเลอร์ใต้ตา ช่วยแก้ปัญหา ริ้วรอยใต้ตา รอยตีนกา มีลักษณะเป็นรอยเหี่ยวย่นใต้ตา และรอบๆ ดวงตา ทำให้หน้าดูมีอายุ
  • ฟิลเลอร์ใต้ตา ช่วยแก้ปัญหา ขอบตาดำ ใต้ตาคล้ำ เป็นวงคล้ำรอบดวงตาและจะเห็นชัดบริเวณใต้ตา ทำให้หน้าดูอ่อนล้า
  • ฟิลเลอร์ใต้ตา ช่วยแก้ปัญหา ถุงใต้ตา ใต้ตาหย่อนคล้อ การมีถุงใต้ตาจะทำให้ปัญหาริ้วรอยและร่องใต้ตาเห็นชัดขึ้น
  • ฟิลเลอร์ใต้ตา ช่วยแก้ปัญหา เบ้าตาลึก ตาโหล เกิดจากการยุบตัวของกระดูกใต้ตา และการสลายตัวของเนื้อเยื่อ

โหงวเฮ้งดวงตา ร่องใต้ตา (หน่ำหนึงเก็ง)

นอกจาก ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เพื่อความสวยงามแล้ว เรื่องโหงวเฮ้งตา ก็เป็นอีกปัจจัยที่หลายคนสนใจครับ โดยตามตำรา โหงวเฮ้งตา คือตำแหน่งที่อยู่ใต้กระบอกตาซ้ายและขวา หมายถึง โชคลาภ ความสบาย

  • ลักษณะเด่น

โหงวเฮ้งดวงตาที่ดี คือเต็มอิ่ม สีสดใส ไม่ดำคล้ำ เรียบ เปล่งปลั่ง ไม่ว่าชายหรือหญิงจะมียศศักดิ์ และร่ำรวยศรีสุขไปตลอดชีวิต ลูกหลานเจริญรุ่งเรือง

  • ลักษณะด้อย

ตาที่มีลักษณะเป็นแอ่งโบ๋ ร่องลึก มีถุงใต้ตาเยอะเกินไป ไม่ว่าชายหรือหญิง ก็จะอาภัพโชค หาคู่ครองยาก หรือลูกหลานดื้อ เลี้ยงยาก หากใต้ตาสีดำคล้ำ ก็จะพบปัญหาคู่ครองและบุตร อาภัพลูก

ถุงใต้ตาแบบไหนไม่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ?

ปัญหาถุงใต้ตา แบ่งออกเป็น 2 ประเภทครับ 

  1. ปัญหาถุงใต้ตาเทียม เกิดจากพฤติกรรมที่ทำให้ถุงใต้ตาบวมขึ้น เช่น การขยี้ตา การร้องไห้ ใช้สายตามากเกินไป หรือมีความเครียดสูง
  2. ปัญหาถุงใต้ตาแท้ เกิดจากผนังกั้นเปลือกตาล่างอ่อนแอลง ทำให้ไขมันใต้ตาหย่อนเป็นถุงใต้ตา และการเสื่อมสภาพของผิว เมื่ออายุมากขึ้น กระดูกใต้ตายุบตัว เนื้อเยื่อใต้ผิวหนังใต้ตายืดออกมาก ทำให้เป็นลักษณะของถุงใต้ตาที่เป็นผิวหย่อนคล้อย

ฟิลเลอร์ใต้ตา เหมาะกับปัญหาถุงใต้ตาแท้ ที่มีการยุบตัวของกระดูก เนื้อเยื่อใต้ผิวหนังใต้ตายืดออกมาก ฟิลเลอร์จะช่วยทดแทนกระดูกและเนื้อเยื่อที่ยุบตัว

ถือเป็นการแก้ปัญหาที่ตรงจุดที่สุดครับ ถ้าเป็นปัญหาถุงใต้ตาที่เกิดจากพฤติกรรม รักษาได้ด้วยหลีกเลี่ยงพฤติกรรมนั้น ๆ ครับ

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา อันตรายไหม ?

บริเวณใต้ตาเป็นส่วนที่หลายคนกังวลเพราะเป็นอวัยวะที่สำคัญของร่างกาย การ ฉีด filler ใต้ตา หากแพทย์มีประสบการณ์ ใช้เทคนิคการฉีดที่ถูกต้อง และที่สำคัญคือต้องใช้ฟิลเลอร์แท้เท่านั้น สามารถสลายได้หมด 100% ไม่มีสารตกค้าง ก็มีความปลอดภัยแน่นอน ไม่เป็นอันตรายครับ

ที่อันตรายคือในสมัยก่อนฟิลเลอร์ของแท้ราคาจะค่อนข้างสูง เทียบกับราคาต้นทุนของซิลิโคนเหลวหนึ่งซีซีไม่ถึงร้อย ทำให้บางที่เลือกใช้ฟิลเลอร์ปลอม ซึ่งก็มีหลายรูปแบบ ทั้งแบบซิลิโคนเหลว แบบที่เป็นฟิลเลอร์แต่ว่าไม่บริสุทธิ์ และฟิลเลอร์ของปลอมละลายออกได้ไม่ 100% สารเหล่านี้ห้ามฉีดเด็ดขาดครับ

ฟิลเลอร์แท้ที่เราฉีดเข้าไปจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว เหมือนมีน้ำมาหล่อเลี้ยงผิวบริเวณนั้น หลังจากฟิลเลอร์สลายหมด จะเหลือเป็นคอลลาเจนและอีลาสตินที่ร่างกายเราสร้างขึ้นมา ทำให้แม้ฟิลเลอร์จะสลายไปแล้ว แต่ผิวก็จะดีกว่าตอนก่อนฉีดครับ เสมือนกับช่วยชะลออายุผิว ช่วยคงความอ่อนเยาว์ไว้ได้นานขึ้นครับ

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเหมาะกับใคร ?

  • ฟิลเลอร์ใต้ตา เหมาะกับคนที่มีปัญหาริ้วรอยใต้ตา หย่อนคล้อย ถุงใต้ตา ขอบตาดำ ตาลึก ตาโหล
  • ไม่อยากเจ็บตัว ไม่อยากผ่าตัด
  • ต้องการผลลัพธ์ที่รวดเร็ว ไม่ต้องพักฟื้น
  • แก้ปัญหาใต้ตาจากการยุบตัวของกระดูกและเนื้อ
  • ฟิลเลอร์ใต้ตา เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาใต้ตาจากลักษณะทางพันธุกรรม

ฟิลเลอร์ใต้ตาใช้กี่ CC ถึงเห็นผล ?

ก่อนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา หมอจะเป็นคนประเมินว่าแต่ละเคสต้องเติมฟิลเลอร์ใต้ตา กี่ CC ครับ ขึ้นอยู่กับปัญหาของแต่ละบุคคล ซึ่งใช้ปริมาณ CC มาก-น้อย ไม่เท่ากัน

ในคนที่มีปัญหากระดูกใต้ตามีการยุบตัวมาก ๆ ใต้ตาลึก เช่น คนไข้อายุเยอะมาก ๆ หมออาจพิจารณาใช้ฟิลเลอร์มากขึ้นโดยดูเป็นเคส ๆ ไป อาจจะใช้ข้างละ 2-3 CC แต่ส่วนใหญ่ถ้าเป็นปัญหาทั่วไปจะใช้ฟิลเลอร์ใต้ตาข้างละ 1-2 CC ในการรักษา ก็สามารถเห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้อย่างชัดเจนแล้วครับ

ฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อไหนดี ?

การ ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นบริเวณที่ต้องพิถีพิถันในการฉีด แบ่งเป็นผิวชั้นลึกและชั้นตื้น โดยเฉพาะการฉีดใต้ชั้นตื้น เนื่องจากผิวหนังใต้ตาค่อนข้างบางจึงควรเลือกใช้ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด ฉีดแล้วไม่ฟูมากจนเกินไป เพราะจะทำให้ตาดูบวม ไม่เป็นธรรมชาติครับ

แบรนด์ฟิลเลอร์ที่แนะนำสำหรับฉีดใต้ตา คือ Restylane, Juvederm และ Belotero ฉีดแล้วคงรูปไม่ฟูเยอะ แต่ละรุ่นจะอยู่ได้นานแตกต่างกัน หากจะฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา หมอก็แนะนำ 3 ยี่ห้อนี้ครับ

Juvederm ในเนื้อฟิลเลอร์จะมี Crosslink (จำนวนการเชื่อมพันธะ) ยิ่งมีเยอะก็จะอยู่ได้นานขึ้น สลายช้าลง อุ้มน้ำน้อยลง ทำให้ฉีดแล้วไม่ฟูมาก เหมาะกับผิวบริเวณที่ขยับบ่อย ๆ 

ซึ่งฟิลเลอร์ Juvederm มีเทคโนโลยี Vycross และ Hylacross โดย เป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของ Allergan มีความพิเศษ คือมีความคงตัว มีโมเลกุลยึดเกาะเหนียวแน่นขึ้น ช่วยยกกระชับได้ดีและมีความเป็นธรรมชาติมาก 

สำหรับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา หมอแนะนำยี่ห้อและรุ่น ตามนี้ครับ

  1. Juvederm Voluma เนื้อแข็ง ฟูปานกลาง ยืดหยุ่นสูง อุ้มน้ำและให้ความเป็นธรรมชาติ
  2. Juvederm Volite เนื้อละเอียด ใช้เติมใต้ตาชั้นตื้น เหมาะกับคนผิวบางแต่ไม่มากเกินไป
  3. Juvederm Volux เนื้อแข็ง มีความยืดหยุ่นและคงตัว สำหรับฉีดเสริมกระดูกใต้ตาชั้นลึก
  4. Restylane Defyne เนื้อเจลแข็งปานกลาง มีความยืดหยุ่นและอุ้มน้ำได้ดี
  5. Restylane Vital Light เนื้อละเอียดมากที่สุด ใช้สำหรับเคสที่ผิวบาง
  6. Restylane Vital เนื้อละเอียด เกลี่ยง่าย เหมาะสำหรับเก็บรายละเอียด ให้ผลเรียบเนียน เป็นธรรมชาติ
  7. Restylane Perlane Lyft เนื้อแข็ง มีความคงตัวสูง ไม่ฟู และสามารถคงรูปได้ดีที่สุด
  8. Restylane Classic เนื้อแข็ง เก็บรายละเอียดใต้ตาในผิวชั้นลึก สำหรับคนผิวบาง
  9. Belotero Volume เนื้อแข็ง มีความยืดหยุ่นและคงตัว เหมาะฉีดเสริมกระดูกใต้ตาชั้นลึก
  10. Belotero Soft ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด เหมาะสำหรับฉีดใต้ตา ให้ผลเรียบเนียน เป็นธรรมชาติ

ฟิลเลอร์ทั้ง 10 รุ่นนี้ เหมาะกับการ ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เพื่อแก้ปัญหา ถุงใต้ตา ขอบตาคล้ำ ซึ่งหมอจะเป็นคนแนะนำยี่ห้อและรุ่นฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับปัญหาของแต่ละคนครับ

ฉีดฟิลเลอร์ ที่ไหนดี เลือกคลินิกอย่างไรให้ปลอดภัยได้มาตรฐาน

หากยังไม่รู้ว่าจะเลือก ฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี เลือกคลินิกอย่างไรให้ปลอดภัยได้มาตรฐาน ไม่อยากผิดหวังจากการฉีดฟิลเลอร์เนื่องจากผลออกมาไม่ธรรมชาติหรือมีอาการบวมย้อย คนไข้ควรเลือกคลินิกได้มาตรฐาน เชื่อถือได้และพิจารณาจากปัจจัย ดังนี้ครับ

  1. คลินิกได้มาตรฐาน ผ่านการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข มีความน่าเชื่อถือ ตรวจสอบได้
  2. แพทย์มีประสบการณ์ มีความชำนาญในการใช้ฟิลเลอร์ใต้ตา และสามารถนำชื่อ-นามสกุลไปตรวจสอบได้ว่าเป็นแพทย์จริง
  3. ใช้ฟิลเลอร์แท้เท่านั้น สามารถศึกษาวิธีดูฟิลเลอร์แท้ได้ในบทความ วิธีดูฟิลเลอร์แท้แต่ละชนิด
  4. มีรีวิวจากแหล่งที่เป็นกลาง เช่น Facebook Fanpage หรือรีวิวในแหล่งที่คลินิกไม่สามารถลบได้
  5. คลินิกมีการติดตามผล และแนะนำข้อปฏิบัติตัวหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา มีช่องทางการติดต่อที่สะดวก เช่น เบอร์โทร, Line@, Facebook Messenger หากมีปัญหาหรือข้อสงสัย สามารถติดต่อแพทย์เจ้าของเคสได้
 

ฟิลเลอร์ใต้ตา กี่วันเห็นผล ?

หลาย ๆ คนคงอยากทราบว่าฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา กี่วันเข้าที่ ? จริง ๆ แล้วการเติมฟิลเลอร์จะสามารถเห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้ทันทีหลังฉีดครับ หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาไปแล้วประมาณ 4-5 วันจะค่อย ๆ เข้าที่และเห็นผลลัพธ์ชัดเจนใน 2 สัปดาห์ หลังจากนั้นหมอจะนัดมาดูผลอีกครั้งครับ

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา บวมกี่วัน ?

อาการบวมหลัง ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาสามารถเกิดขึ้นได้เป็นเรื่องปกติครับ หากใช้ฟิลเลอร์แท้ ฉีดกับหมอในคลินิกที่ได้มาตรฐาน ไม่มีอาการเจ็บแสบบวมแดง โดยสาเหตุมาจากการที่เข็มเข้าไปในผิว และเนื้อฟิลเลอร์ที่ยังไม่เข้าที่ดี ควรดูแลตัวเองหลังฉีดตามคำแนะนำของแพทย์ อาการบวมจะค่อย ๆ ดีขึ้น เข้าที่เต็มที่ใช้เวลา 2 สัปดาห์

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ทำให้ตาบอดจริงหรือ ?

การ ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ทำให้ตาบอดได้จริงครับ แต่เกิดขึ้นได้ยากมากในปัจจุบันที่มีการเข้ามาของเทคโนโลยีต่าง ๆ คนไข้สามารถหาข้อมูลและเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน แพทย์ที่เก่ง มีประสบการณ์ เพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้ครับ

สาเหตุที่ ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา แล้วตาบอด เกิดจากการฉีดฟิลเลอร์ปลอม ฉีดกับหมอเถื่อนที่ไม่มีความรู้ หรือการผิดพลาดจากการที่ฉีดฟิลเลอร์เข้าหลอดเลือด ทำให้เกิดการอุดตัน แต่หากฉีดฟิลเลอร์กับแพทย์ที่มีประสบการณ์และใช้ฟิลเลอร์แท้ ก็แทบไม่มีโอกาสเกิดขึ้นครับ

ฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นก้อน เกิดจากอะไร ? แก้ไขได้ไหม ?  

ปัญหาการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา แล้วเป็นก้อนบวม เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ดังนี้

  • เลือกฟิลเลอร์ไม่ถูกรุ่น ไม่เหมาะกับบริเวณที่ฉีด
  • ใช้เทคนิคการฉีดไม่ถูกต้อง
  • ใช้ฟิลเลอร์ปลอมหรือฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน
  • หมอที่ฉีดให้ไม่มีความชำนาญทางด้านการฉีดฟิลเลอร์

การแก้ไขต้องดูว่าเกิดจากสาเหตุอะไร ถ้าฉีดด้วยฟิลเลอร์แท้ HA (Hyaluronic Acid) สามารถใช้ตัวยาไฮยาลูโรนิเดส (Hyaluronidase:HYAL) ฉีดเพื่อสลายฟิลเลอร์ได้ครับ

ฟิลเลอร์ใต้ตา รีวิว

รูปภาพประกอบจากเคสที่มาใช้บริการจริง การ ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ไม่มีการแต่งภาพ
 

ข้อดี ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

  1. การฉีดใต้ตา เหมาะกับคนที่ไม่อยากผ่าตัด ไม่อยากพักฟื้นนาน
  2. ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ไม่มีแผล หลังฉีดเห็นผลการเปลี่ยนแปลงทันที ใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
  3. ช่วยแก้ไขริ้วรอย ความหย่อนคล้อยใต้ตา ได้อย่างเห็นผล
  4. ฉีดเติมเต็มใต้ตาคล้ำ ในคนที่มีขอบตาดำมาก ทั้งผู้ชาย ผู้หญิง จากภูมิแพ้และการพักผ่อนไม่เพียงพอ
  5. หากเลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ที่ได้มาตรฐาน ฟิลเลอร์แท้ หมอมีประสบการณ์ มั่นใจได้ว่าปลอดภัย 100%

ข้อเสีย ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

  1. ฟิลเลอร์ใต้ตา ไม่สามารถอยู่ได้ถาวร เนื้อฟิลเลอร์จะสลายไปตามระยะเวลาของแต่ละยี่ห้อ ไม่มีสารตกค้าง
  2. ฟิลเลอร์ใต้ตา จำเป็นต้องฉีดซ้ำถ้าอยากรักษาผลลัพธ์ให้อยู่ได้นาน
  3. หลังฟิลเลอร์ใต้ตา จะมีอาการบวมแดง หรือรอยเข็มในจุดที่ทำ แต่จะหายไปเองใน 2-3 วัน
  4. หากไม่ระวังเจอคลินิกเถื่อนที่ใช้ฟิลเลอร์ปลอมมาฉีด อาจเกิดอันตรายได้ เช่น เนื้อตาย ตาบอด (เมื่อฉีดโดนเส้นเลือดสำคัญ)
  5. หากแพทย์ที่ฉีดไม่มีประสบการณ์ เลือกเนื้อฟิลเลอร์และฉีดด้วยเทคนิคที่ไม่ถูกต้อง อาจทำให้ผลออกมาไม่เป็นธรรมชาติหรือเป็นก้อนได้

Q&A : ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ช่วยอะไรบ้าง ?

การ ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา สามารถครอบคลุมการแก้ไขปัญหาใต้ตาได้เกือบทั้งหมด

ทั้งจากอายุที่มากขึ้นและการเสื่อมสภาพของผิว หลัก ๆ ได้แก่ ลดริ้วรอย ร่องลึกใต้ตา แก้ถุงใต้ตา ผิวหย่อนคล้อย เบ้าตาลึก ตาโหล ขอบตาดำ และฉีดใต้ตาคล้ำ

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ตาบอด จริงไหม ?

การ ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา มีโอกาสทำให้ตาบอดได้จริงครับ แต่เกิดขึ้นน้อยมาก ๆ แทบไม่มีแล้ว

หากคนไข้เลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ได้มาตรฐาน และใช้ฟิลเลอร์แท้ (หากฉีดผิดพลาดสามารถฉีดสลายได้ทันที) หมอที่มีประสบการณ์จะใช้เทคนิคที่ถูกต้อง ลดความเสี่ยงในการฉีดฟิลเลอร์เข้าหลอดเลือดครับ

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา กี่วันเห็นผล ?

หลัง ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เห็นผลการเปลี่ยนแปลงทันทีหลังฉีด ใต้ตาจะเต็มขึ้น ริ้วรอยและถุงใต้ตาลดลง

แต่จะยังมีอาการบวมจากเข็มและเนื้อฟิลเลอร์ยังเข้าที่ไม่เต็ม 100% โดยปกติจะมีการติดตามผลหลังฉีดใต้ตา 2 สัปดาห์ ถึงเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนครับ

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอยู่ได้นานแค่ไหน ?

การ ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ทั่วไปจะอยู่ได้ 6-24 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อและรุ่นของฟิลเลอร์ที่เลือกใช้

รวมไปถึงการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ หากหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ทำให้ฟิลเลอร์สลายได้ ก็จะช่วยรักษาฟิลเลอร์ให้อยู่ได้นานขึ้นครับ

สรุป

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา นอกจากช่วยแก้ไขปัญหาความหย่อนคล้อย ถุงใต้ตา ลดริ้วรอยใต้ตา ตาคล้ำ ยังเป็นตัวช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยในอนาคต และเป็นจุดที่เมื่อแก้ไขแล้วจะทำให้ใบหน้าเห็นการเปลี่ยนแปลงชัดเจน หน้าดูเด็กลงอย่างเป็นธรรมชาติ

“การดูแลตัวเองยิ่งเริ่มเร็ว ยิ่งรักษาความอ่อนเยาว์ไว้ได้นานครับ”

สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ Apex Medical Center ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองค่ะ

แพทย์ Apex สายฉีด Filler